แล้วพลิกกลับครามด้านล่างขึ้นมาไว้ด้านบน สำหรับครามงอหมักต่อจนครบ 18 ชั่วโมง จากนั้นให้กรองเอากากออกค่อยๆละลายปูนขาวด้วยน้ำครามที่หมักและเติมลงในถังครามพร้อมที่ใช้ย้อมเส้นไหม หรือเส้นฝ้าย ควรเตรียมหม้อครามอย่างน้อย 15 หม้อ เพื่อให้สีที่ย้อมได้เป็นสีน้ำเงินเข้มสม่ำเสมอและย้อมได้อย่างต่อเนื่องเสร็จในคราวเดียว ทั้งนี้ครามแต่ละหม้อเมื่อใช้ไปแล้ว จะย้อมได้เพียง 1 ครั้ง เท่านั้น ถ้าจะย้อมครั้งต่อไปต้องเติมสารช่วยหมัก เช่น ปูนขาว น้ำด่าง หรือมะขามเปียกเพิ่ม และโจกคราม (กวนคราม) หลายๆครั้ง จึงจะใช้ย้อมสีได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งกินเวลาอย่างน้อย 1 วัน ขึ้นกับสภาพของหม้อคราม สารที่เติมเพื่อก่อหม้อ และการดูแลครามอย่างดี
การย้อม
นำเส้นไหมหรือเส้นฝ้ายลงขยำในน้ำครามประมาณ 2-3 นาที พยายามกดไม่ให้เส้นไหม หรือเส้นฝ้ายสัมผัสกับอากาศ เสร็จแล้วจึงนำมาบิดหมาดและสลัด หรือตีเส้นไหม หรือเส้นฝ้ายให้สัมผัสอากาศ 4-5 ครั้ง แล้วนำไปย้อมในหม้อครามที่ 2 ย้อมเส้นไหม หรือเส้นฝ้ายในลักษณะเดิมจนครบ 15 หม้อ หรือจนเส้นไหม หรือเส้นฝ้ายเป็นสีนำเงินตามที่ต้องการ นำไปล้างน้ำจนสะอาดและผึ่งในที่ร่ม จะได้เส้นไหม หรือเส้นฝ้ายที่มีสีน้ำเงินติดทนไม่ซีดจางง่ายๆ
แม้ว่าหลักการย้อมครามโดยทั่วไปคือทำให้สารครามที่ไม่มีสีจับกับเส้นไหม หรือเส้นฝ้าย และเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเมื่อสัมผัสอากาศ แต่ภูมิปัญญาการย้อมครามในแต่ละท้องถิ่นของประเทศไทยมีความแตกต่างกัน ขึ้นกับวัฒนธรรมและทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นนั้นๆ
สีที่ได้จากการย้อมครามงอ C100 M51 Y0 K69 |